ร้อยไหม ความแตกต่าง Collagen (PDO)  และ ไหม Premium Lock (Cog)

      การร้อยไหม คือ การใช้เข็มนำเส้นไหมละลายที่มีเงี่ยง สอดลงในชั้นผิวหนัง ผิวก็จะถูกเงี่ยงเกี่ยวขึ้นมาตามเส้นไหมในทิศทางที่ร้อยไหมเข้าไป คล้าย ๆ ตะขอเกี่ยว สามารถทำได้ทั้งการร้อยไหมปรับรูปหน้า ร้อยไหมดึงหน้า ร้อยไหมกระชับหน้า ร้อยไหมจมูก

ร้อยไหมที่ รัชวีร์คลินิก มีไหมทั้งหมด  2 ประเภท คือ

  1. ไหม Collagen (PDO)

เส้นไหมเรียบ(Mono Threads) เป็นเส้นเรียบ ไม่มีเงี่ยง ปุ่ม หรือเกลียว ส่วนใหญ่จะใช้ร้อยไหมชนิดนี้บริเวณคอ หน้าผาก และใต้ตา เส้นไหมชนิดนี้จะช่วยแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยมาก ทำให้ผิวหนังเต่งตึงแต่ไม่ได้ช่วยยกชั้นผิวหนัง ซึ่งจะใช้เป็นไหมละลายที่มีวัสดุที่ได้รับความนิยมใช้มากที่สุด มีความยืดหยุ่นสูง มีความแข็งแรง ไม่มีสารก่อให้เกิดอาการแพ้ และเป็นไหมที่ใช้ในทางการแพทย์ ในการผ่าตัดเย็บเส้นเลือดหัวใจ ซึ่งการสลายตัวของเส้นไหมชนิดนี้ จะอยู่ที่ 6-8 เดือน

  1. ไหม Premium Lock (Cog)

เส้นไหมที่มีเงี่ยง(Cog Threads) เป็นเส้นไหมเดียวที่ใช้เลเซอร์ตัดเพื่อทำให้เกิดเงี่ยงในลักษณะต่างๆ เพื่อทำหน้าที่ยึดเกาะด้านในชั้นผิวหนัง ทั้งนี้เงี่ยงของเส้นไหมจะถูกกระตุ้นให้มีหารสร้างคอลลาเจนขึ้นใหม่รอบเส้นไหม เส้นไหมชนิดนี้เหมาะกับการดึงเพื่อยกกระชับ ยกหางคิ้ว ยกหางตา ปรับรูปหน้าให้เรียว

ร้อยไหมช่วยอะไรได้บ้าง?

  1. ร้อยไหมปรับรูปหน้า หน้าเรียว
  2. ร้อยไหมเพื่อยกกระชับแก้ปัญหาเหนียง กระเปาะแก้มหย่อนคล้อย
  3. ร้อยไหมจมูกเพื่อเสริมจมูกให้ดูโด่งสวยมากยิ่งขึ้น
  4. ร้อยไหมช่วยลดริ้วรอยร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก กระตุ้นคอลลาเจน

หลักการยกกระชับของการร้อยไหม

การร้อยไหมจะใช้ 2 แรงในการยกกระชับหน้า คือ

  1. แรงดึงจากเส้นไหม

แรงดึงจากเส้นไหม แรงชนิดนี้จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับเทคนิคการร้อยไหม จุดที่ยึดเกาะ และประเภทของไหม แรงนี้จะเป็นแรงดึงหลักในช่วงของ 1-3 เดือนแรก หรือช่วงที่ Collagen ยังสร้างไม่เต็มที่ หลังจากนั้น 3 เดือน แรงจากเส้นไหมจะเป็นแรงดึงเสริมเท่านั้น

  1. แรงดึงจากการสร้าง Collagen ด้านในชั้นผิว

ซึ่งจะเกิดขึ้นหลังจาก 1-3 เดือน แรงชนิดนี้จะเกิดขึ้นกับอัตราการสร้างและทำลาย Collagen และอัตราการละลายของไหมแต่ละคนจะมีอัตราการสร้างและทำลาย Collagen เมื่อ Collagen สร้างขึ้นแล้วจะเป็นผลการยกกระชับในระยะยาวแทนที่เส้นไหมที่ละลายไปเรื่อยๆ ผลของแรงนี้จะเป็นหลักที่ทำให้ผลลัพธ์ในการร้อยไหมอยู่ได้นานประมาณ 6-24 เดือน ขึ้นอยู่แต่ละบุคคล

การเตรียมตัวก่อนร้อยไหม

  1. ปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินโครงสร้างใบหน้าและปัญหาที่ต้องการแก้ไข เพื่อวางแผนการรักษา
  2. เมื่อปรึกษาแพทย์เรียบร้อยแล้ว ถ้าพร้อมก็สามารถร้อยไหมได้เลยครับ ควรแจ้งประวัติการแพ้ยา วิตามินและยาที่ทานประจำ (ก่อนร้อยไหมควรงดยาและวิตามิน เช่น แอสไพริน, NSAIDs, ginseng และ Vitamin E)
  3. ช่วงระยะเวลา 24 ชั่วโมงก่อนร้อยไหม ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด
  4. ทางคลินิกจะมีการฉีดยาชาให้ก่อนร้อยไหม

การดูแลตัวเองหลังร้อยไหม

  1. หลังร้อยเสร็จทันที อาจมีอาการบวมแดง เขียวช้ำ ซึ่งรอยจะหายไปเองใน 2-3 วัน ห้ามแกะ เกา หรือกดนวด และรับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
  2. ประคบเย็นเพื่อลดอาการบวม ทุกๆ 2 ชั่วโมง ในช่วงวันแรกที่ร้อยไหม
  3. งดทำทรีทเมนต์ และเลเซอร์ ในช่วง 2 เดือนหลังร้อยไหม
  4. งดอาหารรสเค็มจัด และอาหารหมักดอง ในช่วง 2 สัปดาห์หลังร้อยไหม
  5. งดออกกำลังกายหนักๆ ในช่วง 1-2 สัปดาห์หลังร้อยไหม

ผู้ที่ไม่ควรยกกระชับผิวด้วยการร้อยไหม

  1. เป็นแผลคีลอยด์ (keeloid)
  2. ผู้ป่วยโรคโลหิตจาง (Anemia Anemia)
  3. มีโรคประจำตัวที่ต้องทานยากลุ่มยาละลายลิ่มเลือด
  4. ผู้ป่วยโรคมะเร็งผิวหนัง (Skin Cancer Skin Cancer Skin Cancer)
  5. ผู้ที่มีความดันโลหิตสูงมากกว่า 130 mmHg
  6. ผู้ป่วยโรคเบาหวานมากกว่า 130 mg /dL
แชร์โพสต์นี้:

สนใจติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม พร้อมรับสิทธิพิเศษ! คลิก

RATCHAWI CLINIC สร้างความมั่นใจ "ในแบบที่เป็นคุณ"